ทนายตั้ม ติงสรยุทธ #เซเล็บคดีฆาตกรรม เข้าข่ายหมิ่นลุงพล

ทนายตั้ม ติงสรยุทธ #เซเล็บคดีฆาตกรรม เข้าข่ายหมิ่นลุงพล

ทนายตั้ม ไม่เข้าใจเจตนาโพสต์สรยุทธ #เซเล็บคดีฆาตกรรม ชี้คนเรียนกฏหมายทราบดีเข้าข่ายหมิ่นประมาท อาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าลุงพลเป็นคนก่อคดีฆาตกรรม ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ไลฟ์สดตั้งข้อสงสัยถึงผู้ประกาศข่าวตนดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการพูดถึงปรากฏการณ์ ลุงพล และมีการติดแฮชแท็ก #เซเลบคดีฆาตกรรม

การกระทำดังกล่าว ทนายตั้ม มองว่าอาจเป็นการหมิ่นเหม่ที่จะเป็นการหมิ่นประมาทคนอื่น 

ไม่เข้าใจเจตนาของคุณสรยุทธว่าทำไมถึงออกมากล่าวแบบนี้ เพราะหากคนที่เข้าใจกฏหมายจะทราบดีว่า คุณสรยุทธจะถูกดำเนินคดีอีกไม่ได้ ระหว่างไลฟ์สด ทนายตั้ม ชี้แจงว่า ไม่อยากให้แฟนคลับของคุณสรยุทธเข้าใจผิด เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางมาตลอด แต่ตัวทนายตั้มเองอยากให้สื่อเดินตามแนวทางสื่อที่ดี ไม่ใช่เอาเรื่องส่วนตัวคนอื่น หรือคนโน้นด่ากันเอามาเป็นประเด็น

อยากให้คุณสรยุทธช่วยวางแนวทางของสื่อมวลชนให้เหมือนเมื่อก่อน ส่วนตัวตนชื่นชอบตั้งแต่ทำข่าวสมัยก่อนแล้ว แม้คุณสรยุทธจะเคยผิดพลาดมาก็ได้ชดใช้เรียบร้อยแล้ว ทุกคนควรที่จะโฟกัสเรื่องลุงพลผิดไม่ผิด เรื่องตำรวจทำถูกต้องไหมดีกว่า

ทิ้งท้ายคลิป ทนายตั้ม บอกว่าขอติติงคุณสรยุทธนิดนึงที่มาบอกว่าเป็น เซเล็บคดีฆาตกรรม แบบนี้ คุณสรยุทธอย่าไปทำที่ไหนอีกมันไม่ดี ยืนกรานส่วนตัวตนกับลุงพลไม่ได้มีปัญหากับคุณสรยุทธและไม่คิดจะมีปัญหาด้วย เพราะชื่นชอบคุณสรยุทธ แต่ขออภัยที่ต้องมาเตือนผ่านยูทูบเพราะทนายตั้มเองไม่มีเบอร์ส่วนตัวของคุณสรยุทธและไม่เคยคุยกันเลย

โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้งภายในเขตตำบลราชาเทวะ จำนวน 1,456 ต้น

งบประมาณ 138,080,000 บาท

รวมทั้งหมด 7 โครงการใช้งบฯไป 642,650,000 บาท จากจำนวนเสาไฟทั้งสิ้น 6,773 ต้น เฉลี่ยต้นละ 94,884 บาท และทั้ง 7 โครงการ มีบริษัท บางกอกไฟถนน เพียงบริษัทเดียวที่รับงานไปทั้งหมด เมื่อข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ทำให้เกิดำถามว่า งบประมาณดังกล่าวคุ้มค่าหรือไม่ โดยเฉพาะการที่มีภาพการติดตั้งเสาไฟกินรี บริเวณที่เป็นถนนลูกรัง

ด้าน นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต. ราชาเทวะ เคยกล่าวถึงกรณีติดตั้ง เสาไฟกินรี ดังกล่าว เพราะเป็นพื้นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิ จึงจำเป็นต้องทำอะไรที่มากกว่าปกติ เพื่อให้ดูดี เพราะบริเวณและสถานที่ดังกล่าวมีชางต่างชาติเดินทางเข้า-ออก จำนวนมาก

แม่น้องชมพู่ ได้ทนายใหม่ เตรียมสู้คดีน้องชมพู่ต่อ

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทีมทนายความชุดใหม่ที่เพิ่่งมีการแต่งตั้งมอบหมายมาช่วยดูแลคดี จากนี้แม่จะไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวกับน้องชมพู่โดยจะให้ทนายความเป็นคนพูดแต่เพียงผู้เดียว เพื่อไม่ให้เสียรูปคดี ต่อไปแม่จะพูดแต่เรื่องของครอบครัวการใช้ชีวิตประจำวัน การค้าขายเสื้อผ้า เท่านั้น

ด้าน ทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีน้องชมพู่ โพสต์ข่าวที่แม่ชมพู่ให้สัมภาษณ์ชื่นชมทนายตั้มเป็นทนายที่เก่งมีฝีมือ โดยแม่ชมพู่เองเตรียมหาทนายมือดีมาสู้ พร้อมทั้งบอกว่ามีความหวาดกลัวเรื่องพยานหลังลุงพลได้ประกันตัว

โดยทนายตั้มระบุว่า “ขอบคุณที่ชมนะครับ แต่พยานคนไหนที่พูดความจริงไม่จำเป็นต้องกลัวผมเลย ผมถามยังไงก็ไม่แตก แต่หากมีคนเตี๊ยมให้โกหก ผมรับรองความบันเทิงแน่นอน ลุงพลก็เหมือนกันถ้าทำผิดจริง ต่อให้มี 10 ษิทรา ก็ช่วยอะไรไม่ได้”

ขณะที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ” กระบวนการยุติธรรม ต้องปราศจากการแทรกแซง” เตือนคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ อาจเสียรู้ให้ทนายลุงพล ล้วงความลับในสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมไว้ ซึ่งอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมกับคู่กรณี

ซึ่งทนายตั้มได้กล่าวโต้ตอบ พล.ต.ท.อำนวย ว่า น่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเยอะเลยนะครับ ใครเค้าจะเอาสำนวนสอบสวนไปให้คณะกรรมาธิการดู พึ่งจะเห็นท่านเองเป็นคนเปิดประเด็นมา เรื่องนี้เค้าจะมีการเรียกตำรวจมาสอบเกี่ยวกับการออกหมายจับ และการจับที่ผมมองว่าเป็นการเกินกว่าเหตุ ไม่มีใครอยากรู้สำนวนการสอบสวนเลย เพราะถึงแม้ไม่ต้องเปิดก็เดาได้แล้วว่าพยานสอบมาหลายร้อยปาก พอถึงศาลรับรองตัดเหลือไม่ถึง 30 ปาก

ส่วนเรื่องสำนวนการสอบสวน ถ้าผมอยากจะทราบจริงๆ รอได้ครับ ตอนนี้กระบวนพิจารณาในศาลเค้าให้เปิดพยานหมดแล้ว จะจู่โจมพยานแบบสมัยท่านยังรับราชการไม่ได้ ตอนนี้กฎหมายอัพเดตไปเยอะแล้วครับ ลุ้นคดีนี้ให้ฟ้องให้ได้ก่อน ถ้าถึงศาลจะมีวันนัดพร้อมสอบคำให้การ และวันตรวจพยานหลักฐานครับ พอถึงวันนั้นผมก็จะทราบล่ะว่า สำนวนแน่นหนา หรือไม่มีอะไรในกอไผ่เลย

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงจะเข้าพบ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันพุธที่ 13 ม.ค.64 เวลา 14.30 น. ณ กระทรวงทรัพยากรฯ ถ.พหลโยธิน ซ.7 เขตพญาไท เพื่อหาข้อยุติและผลักดันให้รัฐบาลเร่งจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสียโดยไว เพราะเราไม่อาจปล่อยวางให้มีข้อขัดแย้งในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติในเชิงพื้นที่อีกต่อไป”

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร